เมนู

คาถาธรรมบท


อรหันตวรรค1ที่ 7


ว่าด้วยภิกษุอรหันต์


[17] 1. ความเร่าร้อน ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้มีทางไกล
อันถึงแล้ว หาความเศร้าโศกมิได้ หลุดพ้นแล้วในที่
ทั้งปวง ผู้ละกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวงได้แล้ว.

2. ท่านผู้มีสติย่อมออก ท่านย่อมไม่ยินดีใน
ที่อยู่ ท่านละความห่วงใยเสีย เหมือนฝูงหงส์ละเปือก
ตมไปฉะนั้น.

3. คติของชนทั้งหลายผู้หาสั่งสมมิได้ ผู้กำหนด
รู้โภชนะ มีสุญญตวิโมกข์ และอนิมิตตวิโมกข์
เป็นอารมณ์ ไปตามยาก เหมือนทางไปของฝูงนก
ในอากาศฉะนั้น.

4. อาสวะทั้งหลายของบุคคลใดสิ้นแล้ว บุคคล
ใดไม่อาศัยแล้วในอาหารและสุญญตวิโมกข์ อนิมิตต-
วิโมกข์ เป็นโคจรของบุคคลใด ร่องรอยของบุคคล
นั้น ๆ รู้ได้ยาก เหมือนรอยของนกทั้งหลายในอากาศ
ฉะนั้น.

5. อินทรีย์ทั้งหลายของภิกษุใด ถึงความสงบ
แล้ว เหมือนม้าอันนายสารถีฝึกดีแล้วฉะนั้น แม้

1. ในวรรคนี้ มีอรรถกถา 10 เรื่อง.

เหล่าเทพเจ้าย่อมกระหยิ่มต่อภิกษุนั้น ผู้มีมานะอัน
ละแล้ว ผู้หาอาสวะมิได้ ผู้คงที่.

6. ภิกษุใด เสมอด้วยแผ่นดิน เปรียบด้วย
เสาเขื่อนคงที่ มีวัตรดี มีกิเลสดังเปือกตมไปปราศ
แล้ว เหมือนห้วงน้ำปราศจากเปือกตม ย่อมไม่
(ยินดี) ยินร้าย สงสารทั้งหลายย่อมไม่มีแก่ภิกษุ
นั้น ผู้คงที่.

7. ใจของท่านพ้นวิเศษแล้ว เพราะรู้ชอบ ผู้
สงบระงับ คงที่ เป็นผู้มีใจสงบแล้ว วาจาก็สงบแล้ว
การงานก็สงบแล้ว.

8. นระใดไม่เชื่อง่าย มีปกติรู้พระนิพพานอัน
ปัจจัยทำไม่ได้ ตัดที่ต่อ มีโอกาสอันกำจัดแล้ว มี
ความหวังอันคายแล้ว นระนั้นแล เป็นบุรุษสูงสุด

9. พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด เป็นบ้าน
ก็ตาม เป็นป่าก็ตาม ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม
ที่นั้นเป็นภูมิสถานที่น่ารื่นรมย์.

10. ป่าทั้งหลาย เป็นที่น่ารื่นรมย์ ท่านผู้มีราคะ
ไปปราศแล้วทั้งหลาย จักยินดีในป่าอันไม่เป็นที่ยินดี
ของชน เพราะท่านผู้มีราคะไปปราศแล้วเหล่านั้น
เป็นผู้มีปกติไม่แสวงหากาม.

จบอรหันตวรรคที่ 7

7. อรหันตวรรควรรณนา


1. เรื่องหมอชีวก [71]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในสวนมะม่วงของหมอชีวก ทรงปรารภ
ปัญหาอันหมอชีวกทูลถามแล้ว ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "คตทฺธิโน"
เป็นต้น.

พระเทวทัตทำโลหิตุปบาทกรรม


เรื่องหมอชีวก ท่านให้พิสดารในขันธกะแล้วแล.
ความพิสดารว่า ในสมัยหนึ่ง พระเทวทัตเป็นผู้ร่วมคิดกับพระเจ้า
อชาตศัตรูขึ้นสู่เขาคิชฌกูฎ มีจิตคิดร้าย คิดว่า "เราจักปลงพระชนม์
พระศาสดา" จึงกลิ้งหินลง. ยอดเขา 2 ยอดรับหินนั้นไว้. สะเก็ดซึ่ง
แตกออกจากหินนั้น กระเด็นไป กระทบพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ยังพระโลหิตให้ห้อแล้ว. เวทนากลับเป็นไปแล้ว.

หมอชีวกทำการพยาบาลแล้ว


ภิกษุทั้งหลายนำพระศาสดาไปยังสวนมัททกุจฉิ. พระศาสดามีพระ-
ประสงค์จะเสด็จ แม้จากสวนมัททกุจฉินั้นไปยังสวนมะม่วงของหมอชีวก
จึงตรัสว่า " เธอทั้งหลาย จงนำเราไปในสวนมะม่วงของหมอชีวกนั้น."
พวกภิกษุได้พาพระผู้มีพระภาคเจ้าไปยังสวนมะม่วงของหมอชีวกแล้ว. หมอ
ชีวกทราบเรื่องนั้น ไปสู่สำนักพระศาสดา ถวายเภสัชขนานที่ชะงัด เพื่อ
ประโยชน์กำชับแผล พันแผลเสร็จแล้ว ได้กราบทูลคำนี้กะพระศาสดาว่า